top of page

IELTS Speaking Samples

เครื่องหมายวรรคตอน (Punctuation) เป็นเครื่องมือของภาษาเขียนที่จะช่วยแบ่งประโยคให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เครื่องหมายวรรคตอนมีต่อไปนี้

Full stop/Period (.)

Question Mark ( ? ) หรือ เครื่องหมายปรัศนี

ใช้เมื่อจบประโยคในประโยคทุกประโยค ยกเว้น ประโยคคำถาม ประโยคอุทาน เช่น

  • Good morning.

  • I love you.

-ใช้หลังอักษรย่อต่างๆหรือคำย่อ เช่น

  • Dr. = Doctor

  • Mr = Mister

  • M.A. = Master of Art

  • N.Z. = New Zealand

Exclamation Mark ( ! ) หรือ เครื่องหมายอัศเจรีย์ ใช้หลังคำอุทานหรือประโยคอุทาน เช่น

ใช้กับประโยคคำถามเท่านั้น ใช้ในประโยค Direct question เท่านั้น ไม่ใช้ในประโยค Indirect question เช่น 

  • How old are you?

  • Where do you come from? 

  • Direct : I said to him “what time are you arriving?”

  • Indirect : I asked him when he was going to arrive.

Quotation Marks ( ” ” ) หรือ เครื่องหมายอัญประกาศ

เครื่องหมายอัศเจรีย์ ใช้หลังคำอุทานหรือประโยคอุทาน เช่น

    • Beware! 

    • Oh! I forgot!

    • It is extremely cold!

Semi-colon ( ; ) หรือ เครื่องหมายอัฒภาค

– ใช้เขียนคร่อมข้อความที่เป็นประโยคคำพูด เช่น

    • I said, “We’ve arrived.”

ข้อสังเกต 1. เครื่องหมาย full stop, Exclamation Mark,  Question Mark และ Comma จะต้องอยู่ใน Quotation Marks เสมอ 2. Quotation Marks อาจจะมีเครื่องหมายขีดเดียว (‘  ‘) หรือ สองขีด (“ “) ก็ได้

Colon ( : ) หรือ เครื่องหมายมหัพภาคคู่/เครื่องหมายทวิภาค

– ใช้คั่นประโยคที่มีเครื่องหมาย comma คั่นอยู่แล้ว เช่น 

    • Hello, Mary; Please come here.

– ใช้ทำหน้าเพื่อเชื่อมประโยคสองประโยคที่มีเนื้อหาเกี่ยวพันกันวางไว้หน้า adverbs ได้แก่

therefore (ดังนั้น) besides (นอกจากนี้) เป็นต้น เช่น

    • Auckland is very cold; therefore people should wear heavy coats in the winter.

-ใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่ไม่มีคำเชื่อม และทั้งสองประโยคมีความหมายเกี่ยวเนื่องกัน เช่น 

    • Gabriel ate rice; Michael ate noodles.​

– Colon ( : ) มีความหมายคล้ายกับคำว่า กล่าวคือ

– ใช้ colon ก่อนการประโยคอธิบาย เช่น

  •  We have two choices: red or blue.

-ใช้แจ้งรายการหรือรายละเอียด มักใช้ตามหลังคำ the following หรือ as follows เช่น 

  • I purchased the following items: bread, butter, flour, and sugar.

Apostrophe ( ‘ ) หรือ เครื่องหมายวรรคตอน

Dash ( — ) หรือ เครื่องหมายเส้นประ

– ใช้แสดงความเป็นเจ้าของของคำนามทั้งนามเอกพจน์และนามพหูพจน์ เช่น 

    • My brother’s car is white.

– ใช้แสดงความเป็นเจ้าของของคำนามพหูพจน์ที่เติม s หรือชื่อเฉพาะที่มี s เช่น

    •  The girls’ skirt is blue and white.

– ใช้สำหรับละตัวอักษร เช่น 

    • We’ve (We have), couldn’t (could not), can’t (can not), it’s (it is), I’d rather (I would rather)

ใช้เพื่อเน้นข้อความที่แทรกเข้ามาเพื่ออธิบายหรือใช้คั่นคำละไว้ในฐานที่เข้าใจหรือเปลี่ยนใหม่ เช่น

    • Today I woke up at 7am, ate breakfast, went to school, and came home at 5pm - it was a tiring day.

Hyphen ( - ) หรือ เครื่องหมายยติภังค์

– ใช้เพื่อเชื่อมคำสองคำให้เป็นคำเดียวกัน เช่น 

    • ex-husband, ex-wife

Comma ( , ) หรือ เครื่องหมายจุลภาค/เครื่องหมายลูกน้ำ

– ใช้แยกบันทึกรายการต่างๆ หรือคำกลุ่มเดียวกันเช่น 

    • At the movies we ate popcorn, chips, candy, and ice-cream.

    • I want a house, a car, and a motorbike.

สังเกตได้ว่าจะมี (,) วางไว้หน้าคำว่า and

– ใช้เพื่อแยกข้อความในประโยคคำพูด เช่น 

    • She said, “They are kind.”

    • ‘Tell me’, I said, how you know all that.

– ใช้แยกประโยคที่ตามหลัง Yes, No และ Well ที่ขึ้นต้นประโยค เช่น

    • Are you a New Zealander? Yes, I am.

– ใช้แยกประโยคที่ตามหลัง ในที่ที่ต้องการให้หยุดพักการอ่าน เช่น 

    • If you help me, I will help you.

– ใช้คั่นเพื่อแยกคำนามซ้อน เช่น 

    • New Zealand, a country in Australasia, is famous for its beautiful scenery.

– ใช้แยกคำที่เป็นชื่อเรียกของคน เช่น

    • Mathew, Are you OK?

    • Mark, where have you been?

    • What would you like to eat, Luke?

– ใช้แยกคำคุณศัพท์ที่บอกลักษณะ เช่น

    •  …a tall, young, and beautiful girl.

– ใช้แยกคำคุณศัพท์ที่ตามหลังคำนาม เช่น 

    • My girlfriend is slim, tall, and beautiful.

– คั่นระหว่างปีที่ตามหลังเดือน, ถนนกับเมือง, เมืองกับประเทศ เช่น

    • Today is January 9th, 2007.Mathew lives at 44 Queen Street, Auckland.

– ใช้แยกคำหรือวลี เช่น furthermore, thus, despite this, moreover, however, for instance,  for example, , to sum up, in conclusion etc. 

Thinkin Cafe - A Cafe for Academics

bottom of page